วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550

บทบาทผู้บริหารกับการบริหารนวัตกรรมและสารสนเทศ

ปัจจุบันบทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาระบบการทำงานเกือบทุกระบบ ดังนั้นบทบาทความเป็นผู้บริหารของหน่วยงาน ที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้า ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะเสริมสร้างประสิทธิภาพ การปฏิบัติงานขององค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน องค์ประกอบสำคัญส่วนหนึ่งในความสำเร็จของหน่วยงานก็คือบุคลากร การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับบุคลากร เป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของผู้บริหารที่มีความสามารถในการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้บริหารจะต้องเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความรู้ความเข้าใจ ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีศักยภาพในการคิดริเริ่ม คาดการณ์ บริหาร และสรรค์สร้างสิ่งใหม่ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคม ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาและการประยุกต์ใช้งานเพื่อเพิ่มคุณภาพ และเพิ่มผลิตผลของการทำงานขององค์กร ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อองค์กร และต่อการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน ให้เพียงพอต่อความต้องการ ปัจจุบันเป็นยุคที่มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงาน จึงมีความต้องการทรัพยากรบุคคลทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความรู้ความสามารถในด้านคิดค้นพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ธุรกิจและบริการใหม่ๆ เป็นอย่างมาก ผู้บริหารควร มีเป้าหมายที่จะผลิตบุคลากรที่มีความรู้ทั้งทางทฤษฎี และภาคปฏิบัติอย่างเพียงพอ มีการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพมีความรู้ความสามารถด้านทักษะเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริหารการจัดการเพื่อตอบสนองสังคมทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนให้โอกาสบุคคลากรให้ สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีสารสนเทศและการบริหารการจัดการไปใช้ประโยชน์กับงานในต่างๆ อย่างกว้างขวางอันเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงแก่การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศยอมรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา
มีความสามารถในหลายๆด้าน อาทิเช่น
1. ด้านการบริหารองค์กร สามารถบริหารองค์กรให้ทำงานเป็นทีมได้อย่างมีระบบ มีความรู้เรื่องเครื่องมือสมัยใหม่สำหรับการบำรุงรักษา และมีความกระตือรือร้นตลอดจนเปิดใจให้กว้างสำหรับสิ่งใหม่ 2. ด้านบริหารบุคคล จัดอบรมภายในองค์กรให้บุคลากรมีความรู้ มีทัศคติที่ดีในการยอมรับเทคโนโลยีสาระสนเทศ มีบุคลิกภาพดึงดูดความสนใจของเพื่อร่วมงานศึกษาแหล่งผลิตบุคลากรและคัดเลือกบุคลากรที่จะเข้ามาปฏิบัติงานได้อย่างสอดคล้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. ด้านบริหารโครงการ สามารถวางแผนโครงการ ดำเนินโครงการประเมินผล รวมทั้งสามารถเลือกกิจกรรม สื่อที่เหมาะสมในแต่ละโครงการและมีความเป็นผู้นำในการเริ่มโครงการใหม่ ๆ 4. ด้านการออกแบบผู้บริหารควรจะสนับสนุนบุคลากรให้มีสมรรถภาพดังนี้ 4.1 ด้านการออกแบบสื่อการสอนมีความคิดรวบยอดต่อเนื้อหาเพื่อการนำเสนอเป็นสื่อ โดยมีความรู้ทางด้านจิตวิทยา หลักสูตรและเรื่องระบบ เพื่อนำใช้ในการออกแบบสื่อการสอน 4.2 ด้านการออกแบบระบบการสอน มีความสามารถในการประสมประสานเทคนิคทางด้านสื่อ วิธีการทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา สามารถวิเคราะห์คัดเลือกเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการออกแบบระบบการสอนตลอดจนให้คำแนะนำผู้สอน 4.3 ด้านการออกแบบโครงการ สามารถออกแบบโครงการ ที่แปลกใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน โดยให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและเป็นที่ยอมรับของหน่วยงานตลอดจนกำหนดหลักสูตรของโครงการได้5. ด้านการผลิต ผู้บริหารควรส่งเสริมให้บุคคลากร มีความเข้าใจพื้นฐานของระบบเทคโนโลยี สารสนเทศในลักษณะการประยุกต์ใช้ และสามารถโดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ด้านคอมพิวเตอร์ เข้าใจคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ด้านโทรศัพท์ สามารถกำหนดให้โทรศัพท์อยู่ในระบบการผลิตสื่อการสอนหรือการจัดการศึกษา6. ด้านการบริการ ผู้บริหารควรส่งเสริมให้บุคคลากรให้มีสมรรถภาพดังนี้ 6.1 ด้านการจัดเตรียมสื่อ ต้องมีระบบในการจัดเตรียมสื่อเพื่อให้การบริการที่สะดวกรวดเร็วจัดระบบสื่อ พัฒนาการจัดระบบสื่อ วางระเบียบ ข้อปฏิบัติในการให้บริการและใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บข้อมูล การบำรุงซ่อมแซม จัดบุคลากรที่มีความสามารถในการบำรุงซ่อมแซมอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ ส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรมีความสามารถในการใช้สื่อ สามารถวิเคราะห์ เลือกสื่อ จัดระบบการใช้และสรรหาวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจมี การจัดหาสื่อ ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสื่อการสอนจากแหล่งผลิตตลอดจนจัดหาสื่อจากหน่วยงานอื่น ๆ 6.2 ด้านการเก็บสื่อ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของสื่อเพื่อการบริการที่รวดเร็ว 6.3 ด้านการให้ความรู้เรื่องสื่อ มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาการสื่อสารและมีประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูล 6.4ด้านการประเมิน สามารถออกแบบวิธีการประเมินสื่อและการใช้สื่อโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประหยัดงบประมาณและบุคลากร7. ด้านการวิจัย ผู้บริหารควรเป็นนักวิจัยและสนับสนุนบุคลากรให้เป็นนักวิจัยทางการศึกษาทำการการศึกษา ในหัวข้อที่นำใช้ในงานด้านเทคโนโลยีทางการศึกษา โดยเน้นการวิจัยที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศที่มาใช้ในวงการเทคโนโลยีทางการศึกษา เช่น ดาวเทียม โทรศัพท์และโทรคมนาคมอื่น ๆ ตลอดจนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรายงานผลการวิจัยเพื่อเผยแพร่ออกไปได้อย่างกว้าง
ขวาง

2 ความคิดเห็น:

ภราดร กล่าวว่า...

เป็นบทความที่มีประโยชน์ น่าสนใจมาก แต่เนื้อหายาวไปหน่อย

กัลยา กล่าวว่า...

เนื้อหาน่าสนใจมากค่ะ ขอทราบนามสกุลผู้เขียนได้มั้ยคะ จะใช้อ้างอิงในงานวิจัยค่ะ